กำหนดการเดินทาง |
ผู้ใหญ่พัก 2-3 ท่าน ท่านละ |
เด็กอายุไม่เกิน 12 ปี (เสริมเตียง) ท่านละ |
เด็กอายุไม่เกิน 12 ปี (ไม่เสริมเตียง) ท่านละ |
ไม่รวมตั๋ว ท่านละ |
พักเดี่ยวเพิ่ม ท่านละ |
วันที่ 12 – 20 ก.พ. 63 | 63,900 | 63,900 | 63,900 | 41,465 | 9,900 |
วันที่ 6 – 14 เม.ย. 63 | 79,900 | 79,900 | 79,900 | 47,595 | 7,900 |
วันที่ 12 – 20 พ.ค. 63 | 67,900 | 67,900 | 67,900 | 45,165 | 7,900 |
วันที่ 17 – 25 มิ.ย. 63 | 67,900 | 67,900 | 67,900 | 45,165 | 7,900 |
โปรแกรมอาจจะมีการปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมของสภาพอากาศและฤดูกาล |
วันที่ 1 :: | กรุงเทพฯ |
21.00 น. |
คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศประตู 3 เคาน์เตอร์ D สายการบินไทย โดยมีเจ้าหน้าที่ คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวก |
วันที่ 2 :: | กรุงเทพฯ – ซูริค – น้ำตกไรน์ – ซูริค – เบิร์น |
00.35 น. |
ออกเดินทางสู่สวิสเซอร์แลนด์ โดยสายการบินไทย เที่ยวบิน TG 970 |
06.55 น. |
เดินทางถึงสนามบินซูริค (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั๋วโมง และจะเปลี่ยนเป็น 5 ชั๋วโมงในวันที่ 29 มีนาคม 2563) หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่เมืองชาฟฟ์เฮาเซิน (Schaffhausen) ชมน้ำตกไรน์ (RhineFall) น้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปสวยงามและตื่นตาตื่นใจ เกิดจาก แม่น้ำไรน์ทั้งสายไหลผ่านหน้าผากว้าง 150 เมตร จึงเป็นน้ำาตกขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรป อิสระให้ท่านได้ชื่นชมความงามของน้ำตกและถ่ายรูปตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านเดินทางเที่ยวเมืองซูริค (Zurich) เมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ นำท่านถ่ายรูปกับโบสถ์ฟรอมุนสเตอร์ (Fraumunster abbey) สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 853 โดยกษัตริย์เยอรมันหลุยส์ ใช้เป็นสำนักแม่ชีที่มีกลุ่มหญิงสาวชนชั้นสูงจากทางตอนใต้ของเยอรมันอาศัยอยู่ |
กลางวัน |
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร อาหารจีน |
บ่าย |
นำท่านเดินทางสู่กรุงเบิร์น (Bern) ซึ่งได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลกในปี ค.ศ. 1863 นอกจากนี้เบิร์นยังถูกจัดอันดับอยู่ใน 1 ใน 10 ของเมืองที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดของโลกในปี ค.ศ.2010 นำท่านชมบ่อหมีสีน้ำตาล(Bear Park) สัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์ของกรุงเบิร์น นำท่านชมมาร์กาสเซ ย่านเมืองเก่า ปัจจุบันเต็มไปด้วยร้านดอกไม้และบูติค จึงเหมาะกับการเดินเที่ยวชมอาคารเก่า อายุ 200-300 ปี นำท่านลัดเลาะชม ถนนจุงเคอร์นกาสเซ ถนนที่มีระดับสูงสุดของเมืองนี้ ถนนกรัมกาสเซ ซึ่งเต็มไปด้วยร้านภาพวาดและร้านขายของเก่าในอาคารโบราณ ชมนาฬิกาไซ้ท์ คล็อคเค่นทรัม อายุ 800 ปี ที่มี “โชว์” ให้ดูทุกๆชั่วโมงในการตีบอกเวลาแต่ละครั้ง นำท่านแวะถ่ายรูปกับโบสถ์ Munster สิ่งก่อสร้างทางศาสนาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1421 ประตูจะมีภาพที่บรรยายถึงการตัดสินครั้งสุดท้ายของพระเจ้า |
ค่ำ |
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร อาหารพื้นเมือง |
วันที่ 3 :: | เบิร์น – เจนีวา – โลซานน์ – เซอร์แมท |
เช้า |
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม |
กลางวัน |
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารบนยอดเขา อาหารจีน |
บ่าย |
นำท่านเดินทางสู่เมืองโลซานน์ (Lausanne) ซึ่งตั้งอยู่ตอนเหนือของทะเลสาบเจนีวา เมืองโลซานน์นับได้ว่าเป็นเมืองที่มีเสน่ห์โดยธรรมชาติมากที่สุดเมืองหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ มีประวัติศาสตร์อันยาวนานมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 4 ในสมัยที่ชาวโรมันมาตั้งหลักแหล่งอยู่บริเวณริมฝั่งทะเลสาบที่นี่ เมืองโลซานน์มีความสวยงามโดยธรรมชาติ ทิวทัศน์ที่สวยงาม และอากาศที่ปราศจากมลพิษ จึงดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาพักผ่อนตากอากาศที่นี่ เมืองนี้ยังเป็นเมืองที่มีความสำคัญสำหรับชาวไทยเนื่องจากเป็นเมืองที่เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จย่า จากนั้นนำท่านชม สวนสาธารณะที่มีรูปปั้นลิง 3 ตัว ปิดหู ปิดปาก ปิดตา อันเป็นสถานที่ทรงโปรดของในหลวงเมื่อทรงพระเยาว์ และถ่ายรูปกับ ศาลาไทย ที่รัฐบาลไทยส่งไปตั้งในสวนสาธารณะของเมืองโลซานน์ นำท่านเดินทางสู่สถานีรถไฟเมืองแทซ (Teasch) เพื่อเดินทางสู่เมืองเซอร์แมท (Zermatt) เมืองแห่งสกีรีสอร์ท ยอดนิยมที่ได้รับความนิยมสูง เนื่องจากเป็นเมืองที่ปลอดมลพิษทางอากาศเพราะยานพาหนะในเมืองไม่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง แต่ใช้แบตเตอรี่เท่านั้น และยังมีฉากหลังของตัวเมืองเป็นยอดเขาแมททอร์ฮอร์น (Matterhorn) ที่ได้ชื่อว่าเป็นยอดเขาที่มีรูปทรงสวยที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ ให้อิสระเดินเล่นในเมือง |
ค่ำ |
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร อาหารพื้นเมือง |
วันที่ 4 :: | เซอร์แมท– เขาไคลน์แมทเทอร์ฮอร์น – แทซ – เซอร์แมท |
เช้า |
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม |
กลางวัน |
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร อาหารพื้นเมือง |
บ่าย |
เข้าชมถ้ำน้ำแข็งที่อยู่สูงที่สุดในสวิส ถ่ายรูปกับรูปแกะสลักน้ำแข็งที่สวยงาม ได้เวลาพอสมควร นำคณะเดินทางลงจากเขาให้เวลาท่านเต็มอิ่มกับเมืองเซอร์แมท (Zermatt) อิสระให้ท่านได้เดินชมเมือง ถ่ายรูปและเลือกซื้อของที่ระลึกตามอัธยาศัย |
ค่ำ |
อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย |
วันที่ 5 :: | เซอร์แมท – มองเทรอซ์ – เข้าชมปราสาทชิลยอง – เวเว่ย์ – อินเทอร์ลาเคน |
เช้า |
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม |
กลางวัน |
รับประทานอาหารกลางวันภัตตาคารบนยอดเขา อาหารจีน |
บ่าย |
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองเวเว่ย์ (Vevey) ตั้งอยู่ริมชายฝั่งด้านเหนือของทะเลสาบเจนีวา เป็นเมืองที่ได้ชื่อว่าเป็น “ไข่มุกแห่งริเวียร่าสวิส” (Pearls of the Swiss Riviera) ดินแดนที่เหมาะแก่การทำกิจกรรมแทบทุกฤดูกาล แล้วนำท่านเดินทางต่อสู่เมืองอินเทอร์ลาเคน(Interlaken) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ระหว่าง ทะเลสาบทูน (Lake Thun) และทะเลสาบเบรียนซ์ (Lake Brienz) อิสระให้ท่านได้สัมผัสบรรยากาศและธรรมชาติแบบสวิตเซอร์แลนด์ในเมืองเล็กๆ |
ค่ำ |
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (ชีส ฟองดูว์) |
วันที่ 6 :: | อินเทอร์ลาเคน – ยอดเขาจุงเฟรา – อินเทอร์ลาเคน |
เช้า |
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม |
กลางวัน |
รับประทาอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง |
บ่าย |
พาท่านชมวิวที่ ลานสฟิงซ์ (Sphinx Terrace) จุดชมวิวที่สูงที่สุดในยุโรปที่ระดับความสูงถึง 3,571 เมตร สามารถมองเห็นได้กว้างไกลที่ถึงชายแดนสวิส สัมผัสกับภาพของธารน้ำแข็ง Aletsch Glacier ที่ยาวที่สุดในเทือกเขาแอลป์ ยาวถึง 22 ก.ม.และหนาถึง 700 เมตร โดยไม่เคยละลาย อิสระให้ท่านได้สนุกสนานกับการถ่ายรูป เล่นหิมะบนยอดเขาและเพลิดเพลินกับกิจกรรมบนยอดเขาและที่ไม่ควรพลาดกับการส่งโปสการ์ดโดยที่ทำการไปรษณีย์ที่สูงที่สุดในยุโรป นำคณะเดินทางลงจากยอดเขากลับสู่เมืองอินเทอร์ลาเคน อิสระให้ท่านได้เดินชมความน่ารักและโรแมนติคของเมือง พร้อมเลือกซื้อนาฬิกาสวิสฯจากร้านค้าชั้นนำ |
ค่ำ |
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง |
วันที่ 7 :: | อินเทอร์ลาเคน– ลูเซิร์น – ล่องเรือทะเลสาบลูเซิร์น – ซุก |
เช้า |
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม |
กลางวัน |
อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย |
บ่าย |
นำท่านล่องเรือทะเลสาบลูเซิร์น (lake Lucerne Cruise) (การล่องเรือขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว น้ำในทะเลสาบอาจกลายเป็นน้ำแข็ง จนไม่สามารถล่องเรือได้ ทางบริษัทขอคืนเงินจำนวน 10 สวิตฟรังต่อท่าน) ทะเลสาบสี่พันธรัฐที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่4ของประเทศมีความงดงามของทัศนียภาพอยู่ท่ามกลางหุบเขาที่โอบล้อมด้วยยอดเขาริกิ (Mount Rigi) และยอดเขาพิลาตุส (Mount Pilatus) ทำให้วิวทิวทัศน์ดูงดงามยิ่งขึ้นทะเลสาบลูเซิร์น ได้ชื่อว่าสวยสุดในสวิตเซอร์แลนด์ทัศนียภาพบริเวณรอบๆทะเลสาบลูเซิร์น เป็นอาคารบ้านเรือน เดินทางต่อสู่เมืองซุก (Zug) เมืองเล็กๆ ริมทะเลสาบที่สวยงามราวกับเทพนิยายตั้งอยู่ทางภาคกลางตอนบนของประเทศ โดยนอกจากความสวยงามของทัศนียภาพแล้ว เมืองนี้ยังมีอัตราการเก็บภาษีที่ค่อนข้างต่ำจึงถือเป็นที่ตากอากาศที่นิยมของเหล่าเศรษฐี คนดังสำคัญระดับโลกมากมายมาเยือน ท่านอาจจะเห็นซูเปอร์คาร์จอดเรียงรายอยู่ 2 ข้างทาง จนเป็นเรื่องธรรมดาไปเลย นำท่านชมเมืองชมหอนาฬิกาเมืองซุก (Clock Tower) แลนด์มาร์กที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมือง ด้วยความสูงของหอถึง 52 เมตรและความโดดเด่น ของหลังคาซึ่งเป็นสีน้ำเงินขาวโดนเด่นตัดกับสีหลังคาสีน้ำตาลของบ้านเมืองสวยงามอย่างยิ่ง มีเวลาให้ท่านเดินขึ้นบันไดสู่จุดชมวิวด้านบนของหอนาฬิกา ที่ท่านจะสามารถเห็นวิวที่สวยงามโดยรอบของเมืองซุก นำท่านเข้าชมโบสถ์เซนท์ออสวอร์ล (St Oswald's church) โบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญของเมือง ตัวโบสถ์สร้างขึ้นตั้งแต่ ค.ศ. 1478 ใช้เวลาการก่อสร้างนานถึง 6 ปี ถือเป็นหนึ่งในสถาปัตยกรรมที่สำคัญที่สุดในช่วงโกธิคตอนปลายแห่งหนึ่งในสวิตเซอร์แลนด์ นอกจากนี้ ชาวสวิสยังมีความเชื่ออีกว่า ถ้าใครมีเรื่องทุกข์ร้อนใดๆ หรือเจ็บป่วย ถ้าได้มาขอพรกับโบสถ์แห่งนี้ จะช่วยบรรเทาให้ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว (กรณีถ้ามีพิธีภายในโบสถ์ อาจไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าชม) นำท่านเข้าชมร้านทำทองที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป (The Oldest house of goldsmiths in Europe) ของครอบครัว Lohri เปิดทำการตั้งแต่สมัยศัตวรรตที่ 16 ภายในตัวอาคารมีการตกแต่งในรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยจักรวรรดินโปเลียน มีซุ้มประตูและเสาโรมัน มีรูปปั้นและจิตรกรรมฝาผนัง ด้วยการวาดลายหินอ่อนด้วยมือ ในปี 1971 ได้เปิดร้านนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะล้ำค่าและเครื่องประดับหายาก และบางชิ้นมีเพียงชิ้นเดียวในโลก มีเวลาให้ท่านเดินชื่นชมอาคาร งานศิลปะล้ำค่าและเครื่องประดับหายากแล้ว ในส่วนของ Lohri Store ยังมีนาฬิกาชั้นนำระดับโลกให้ท่านเลือกซื้อเลือกชมอาทิ เช่น Patek Philippe, Franck Muller Cartier , Piaget, Parmigiani Fleurier, Panerai, IWC , Omega, Jaeger-LeCoultre, Blancpain, Tag Heuer ฯลฯ และไม่ควรพลาดเค้กเชอร์รี่ Zug Cherry Cake (Zuger Kirschtorte) จากร้าน Speck เค้กที่มีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์และมีขายมากว่าร้อยปี มีบุคคลที่มีชื่อเสียงมากมายต่างเคยลิ้มลองเค้กจากร้านนี้ เช่น Charlie Chaplin, Winston Churchill หรือสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส โดยเมืองซุกนี้มีการทำฟาร์มผลไม้ ทั้งสตอเบอร์รี่, บูลเบอร์รี่, ราสเบอร์รี่,ลูกแพร์ ฯลฯ รวมทั้ง เชอร์รี่ ที่มีปลูกมากกว่า 40,000 ต้น |
ค่ำ |
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน |
วันที่ 8 :: | ซุก – สนามบินซูริค |
เช้า |
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม |
13.15 น. |
ออกเดินทางสู่กรุงเทพ โดยเที่ยวบินที่ TG 971 |
วันที่ 9 :: | กรุงเทพ |
06.10 น. |
ถึงกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ |
จองทริปนี้
กรุณากรอกข้อมูลด้านล่างให้ครบถ้วนเพื่อความรวดเร็วในการติดต่อกลับไปหาท่าน